กระแสไวรัลในโลกออนไลน์ กำลังฮือฮาถึงเรื่องราวความรัก ของหนุ่มสาวรายหนึ่งที่เลิกลากัน ด้วยเหตุผลสุดแปลก แถมฝ่ายชายยังยื่นฟ้องฝ่ายหญิงข้อหาทำให้ตนเองเสียเวลาอีกด้วย

    เรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก โดยฝ่ายชายเข้ามาเล่าว่า ตนเองเสียเวลา 4 ปี แย่ยิ่งกว่าเจอมิจฉาชีพเสียอีก 4 ปีที่คบกัน แฟนสาวแต่งหน้าตลอดเวลา ทำให้เขาไม่เคยเห็นเธอหน้าสดเลยสักครั้ง ซึ่งเธอให้เหตุผลว่า เกรงว่าจะทำให้กลัว ซึ่งตนก็ไม่ได้จริงจังกับสิ่งที่แฟนสาวพูด

    หนุ่มเจ้าของเรื่อง ได้เล่าให้ฟังว่า หลายครั้งที่ต้องการเห็นใบหน้าของแฟนสาวที่ปราศจากการแต่งหน้าอย่างตรงไปตรงมา ขอซ้ำแล้วซ้ำอีกแต่เธอยืนกรานที่จะปฏิเสธ ดังนั้น เธอจงใจเข้านอนช้ากว่าฝ่ายชายเพื่อล้างเครื่องสำอางออกเสมอ และตื่นแต่เช้าเพื่อแต่งหน้าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ของฝ่ายชายเริ่มยุให้แต่งงานเร็ว ๆ

    เมื่อต้องอยู่ด้วยกันก็ต้องปราศจากความลับ ทำให้ฝ่ายชายคิดแผนออกอุบายแกล้งหลับและรอให้แฟนสาวล้างเครื่องสำอางแล้วเข้านอน แต่พอเห็นตัวจริงของแฟนสาว ทำเอาฝ่ายชายแทบทรุด ทำเอาเขาใจสลายมาก โดยพูดว่า "มันเกินจริงเกินไปมาก เหมือนคนละคน ผมเคยหัวเราะเยาะเพราะไม่เชื่อวิดีโอที่แต่งหน้าเวอร์ๆ ในโซเชียล แต่วันนี้กลับเจอกับแฟนตัวเอง"

    เจ้าตัวยังบอกอีกว่า วันนั้นเขากลัวมาก จนวิ่งไปนอนที่ห้องนั่งเล่น หลังจากนั้นไม่กลับบ้านเป็นเดือน ไม่อยากเจอกันกันอีก จนมีคำถามในหัวว่าจะเลิกกับแฟนได้ยังไง คนสมัยนี้ ดูแต่หน้าหรือหุ่นไม่ได้แล้ว ผมไม่อยากให้ลูกในอนาคตดูเหมือนกับเธอ เพราะไม่ต้องการให้เด็กถูกหัวเราะเยาะ ในยุคสมัยที่ตัดสินกันในรูปร่างหน้าตา

    หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายชายตัดสินใจบอกแฟนสาว พร้อม ขอค่าเสียเวลา 4 ล้าน โทษฐานที่เจตนาหลอกทำลายความเชื่อใจมาตลอดเวลา 4 ปี  เจอแบบนี้แย่ยิ่งกว่ากลุ่มมิจฉาชีพ” หลังจากข้อความดังกล่าวถูกแชร์ ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ซึ่งส่วนใหญ่เห็นฟ้องต้องกันว่า หญิงสาวนั้นโชคดีแล้วที่ไม่ได้ผู้ชายทัศนคติแย่มาเป็นสามี แต่บางส่วนก็มองว่า จุดเริ่มต้นก็โกหกกัน แล้วอนาคตจะไปรอดได้ยังไง... แล้วคุณล่ะคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง

ที่มา : Ettoday